ยิ่งเศรษฐกิจแย่เท่าไหร่ ความงมงายยิ่งขายดีเท่านั้น ทั้ง "วัตถุศักดิ์สิทธิ์เรียกทรัพย์รับโชค" "แชร์ลูกโซ่" "ทัวร์ลวง" "กองทุนหลอก"

คนในวงการธุรกิจออกมาบอกเล่าว่า ยิ่งเศรษฐกิจแย่เท่าไหร่ ความงมงายยิ่งขายดีเท่านั้น เช่น "วัตถุศักดิ์สิทธิ์เรียกทรัพย์รับโชค"ที่ผลิตกันเองหลังร้าน รวมทั้ง  "แชร์ลูกโซ่" "ทัวร์ลวง" "กองทุนหลอก" ...


ยิ่งเศรษฐกิจแย่เท่าไหร่ ความงมงายยิ่งขายดีเท่านั้น
"พันล้านบาท" คือยอดขายที่ผมได้ยินมากับหู
เศรษฐีหลายร้อยล้านท่านนึงซึ่งเป็นคนดัง
เล่าให้ผมฟังถึงอาณาจักรธุรกิจที่คนปกติฟังแล้ว ต้องบอกว่า "งมงายมาก"
ฟังดูงมงาย แต่มันกลับขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ช่างสวนกระแสเศรษฐกิจในตอนนี้เสียเหลือเกิน
ที่เล่ามา ไม่ใช่ธุรกิจของเศรษฐีท่านนี้นะครับ
แต่เจ้าของอาณาจักรงมงายดังกล่าว ยินดีจ่ายเงินให้เขาเป็นล้านบาท
เพียงเพื่อขอให้ช่วยกระพือให้ความงมงายนี้โด่งดังยิ่งขึ้นไปอีก
ยอดขายจะได้พุ่งขึ้นไปเป็นหลายพันล้าน

ฟังเรื่องนี้ ก็นึกไปถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน
ผมได้คุยกับเพื่อนที่รับจ้างทำการตลาดออนไลน์ให้สินค้าหลากหลาย
เพื่อนมันบอกผมว่า ครีม อาหารเสริม หลบไปเลย
เพราะสิ่งที่มาแรงแซงทางโค้ง ณ เวลานี้
คือ "วัตถุศักดิ์สิทธิ์เรียกทรัพย์รับโชค"
ขายดีจนส่งสินค้าไม่ทัน เจ้าของก็ผลิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันหลังร้านนั่นแหละ
ฟังแล้วเศร้ามั้ย?

รากฐานที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  ผมคิดว่าอาจจะเริ่มจาก 3 สาเหตุ
*สาเหตุแรก*
คนความสามารถน้อย มักนั่งคอยโชคชะตา
คนขี้เกียจ ชอบหาทางลัดในการสร้างตัว
ลองนึกดู​ ถ้าเรามีความสามารถ ทำงานเก่ง ขยัน สู้ชีวิต
พลิกแพลงสถานการณ์ได้เสมอ และเชื่อในตัวเอง
เราจะไปพึ่งพาหาโชคชะตาทำไม?
แต่พอความสามารถน้อย แล้วยังขี้เกียจอีก
ก็เลยเสร็จคนที่สบช่อง เห็นโอกาสนี้ ขยี้ความอยากให้โป่งพอง
ขายของศักดิ์สิทธิ์ ขายวิธีรวยติดเทอร์โบ
ผลก็คือศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ คนขายรวยติดเทอร์โบ



*สาเหตุที่ 2*
บางคนไม่สามารถมีความสุขที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้เงิน
จะว่าไปคนซื้อคนขายในธุรกิจนี้ก็สมกันดี
เพราะเขาต่างบูชาความร่ำรวยเป็นสิ่งสุดยอดของชีวิต
คนนึงทำทุกอย่างได้ เพื่อความร่ำรวย
คนนึงซื้อทุกอย่างได้ หากจะทำให้เขาร่ำรวย
แต่หากเขาจะรู้สักนิดว่า
แค่ใช้ความสามารถ ประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัวให้อยู่ได้อย่างเพียงพอ
แล้วใช้ปัญญามองหาว่าอะไรคือความสุขอื่นอีกที่ไม่ต้องใช้เงิน
คุยเล่นกัน กินข้าวกัน กอดกัน เล่านิทานกัน มองฟ้ากัน
คิดทำเพื่อคนอื่น อย่าตื่นมาเพื่อทำให้แต่ตัวเอง
จากนั้นใช้เวลากับสิ่งเหล่านั้นให้เยอะ ๆ เท่านี้ก็มีความสุขได้แล้ว
เพราะสิ่งนอกเหนือจากนั้นมันเป็นแค่ปูนพอกอยู่นอกกาย

*สาเหตุที่ 3*
คนกำลังสิ้นหวัง มักจิตอ่อน ใครจุดไม้ขีด ก็นึกว่าคบเพลิง
เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็นึกว่าทางออก
ทั้งที่จริง รถไฟกำลังจะวิ่งสวนเข้ามาชนเต็ม ๆ
คนกลุ่มนี้น่าสงสาร
คนทำกับกลุ่มนี้ ก็บาปกรรม
บางคนก็เลยบอกสิ่งที่ฉันทำไม่งมงาย แต่มันคือกำลังใจ
ใช่ครับ กำลังใจพันล้านบาทกันเลยทีเดียว
โอเค กำลังใจเป็นเรื่องต้องมี เพราะมันดีต่อใจ
แต่คนปกติดีเขาจะไม่พึ่งพาแต่กำลังใจ
แต่เขาจะพึ่งกำลังกาย กำลังสมอง เพิ่มความสามารถ ฝึกฝน
สู้ชีวิต เปิดประตูโอกาสบานใหม่ไปเรื่อย ๆ จนเจอทางออก
แต่คนกลุ่มนี้เขากำลังสิ้นหวัง ยังไปซ้ำเขาอีก
บางคนคือเงินก้อนสุดท้าย ความหวังสุดท้าย
ยิ่งเดี๋ยวนี้ลามไปถึงคนมีความรู้ คนมีทรัพย์ แต่ไม่มีสติ
แชร์ลูกโซ่ ทัวร์ลวง กองทุนหลอก จึงผุดเป็นดอกเห็ดในป่าชื้น

ยิ่งเศรษฐกิจแย่เท่าไหร่
ความงมงายยิ่งขายดีเท่านั้น
สติหมด ระวังโดนปลดทรัพย์ไม่รู้ตัวนะครับ


ที่มา: FB  Boy's Thought








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัมพชาดก: มนต์เสื่อมเพราะลบหลู่ครูอาจารย์

คนที่ชอบด่าว่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น กรรมจะมาเร็วมาก เป็นกรรมทางวาจา มีผลร้ายแรงมาก

ใจสบายไปทั่วโลก กับบทแผ่เมตตาภาษาอังกฤษ