การสนทนาธรรมเรื่องผู้ทำให้ป่างาม (มหาโคสิงคสาลสูตร)




หลากหลายอัธยาศัย หากเข้าใจกันและมีเป้าหมายเดียวกัน ก็เดินทางร่วมกันสู่จุดหมายด้วยกันได้ อย่างมีความสุข


มหาโคสิงคสาลสูตร การสนทนาธรรมเรื่องผู้ทำให้ป่างาม

เป็นพระสูตรที่พระอริยเจ้าแต่ละท่าน ทั้งพระโสดาบันและพระอรหันต์ต่างก็ได้แสดงความเห็นว่าภิกษุประพฤติตนเช่นไร 
ปฏิบัติแบบไหน จึงจะทำให้ป่างาม  ท้ายสุดพระพุทธเจ้าจึงทรงสรุปว่า ภิกษุใดเป็นผู้ยังให้ป่างาม

บทย่อ

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ป่าโคสิงคสาลวัน พร้อมด้วยพระสาวกมีชื่อเสียงมากรูป คือ พระสารีบุตร พระมหาโมคัลลานะ พระมหากัสสป พระอนุรุทธ พระเรวตะ พระอานนท์ และพระสาวกอื่นๆ ในเวลาเย็นพระมหากัสสปะ พระโมคคัลลานะพระอนุรุทธ พระเรวตะ พระอานนท์ เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรเพื่อฟังธรรม



พระสารีบุตรถามพระเถระทั้งหลายว่า ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร และขอให้พระเถระแต่ท่านตอบตามปฏิภาณที่เป็นของตน

พระอานนท์ตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย ภิกษุผู้เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ ธรรมเหล่านั้นใด งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรย์ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ธรรมเห็นปานนั้น อันภิกษุนั้น สดับมากแล้ว ทรงไว้แล้ว สั่งสมด้วยวาจา ตามเพ่งด้วยใจ แทงตลอดดีแล้วด้วยความเห็น ภิกษุนั้นแสดงธรรมแก่บริษัท ๔ ด้วยบทและพยัญชนะอันราบเรียบ ไม่ขาดสาย เพื่อถอนเสียซึ่งอนุสัย

พระเรวตะตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย ภิกษุผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความหลีกเร้น ประกอบเนืองๆ ซึ่งเจโตสมถะอันเป็นภายใน มีฌานอันไม่ห่างเหินแล้ว ประกอบด้วยวิปัสสนา พอกพูนสุญญาคาร


พระอนุรุทธะตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย ภิกษุผู้ตรวจดูโลกพันหนึ่งด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์


พระมหากัสสปตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุที่ตนเองเป็นผู้อยู่ในป่า เที่ยวบิณฑบาต ถือผ้าบังสุกุล ถือไตรจีวรเป็นวัตร เป็นผู้มีความปรารถนาน้อย เป็นผู้สันโดษ เป็นผู้สงัด เป็นผู้ไม่คลุกคลี เป็นผู้ปรารภความเพียร เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัศนะ และกล่าวสรรเสริญคุณแห่งความเป็นผู้อยู่ในป่า เที่ยวบิณฑบาต ถือผ้าบังสุกุล ถือไตรจีวรเป็นวัตร เป็นผู้มีความปรารถนาน้อย เป็นผู้สันโดษ เป็นผู้สงัด เป็นผู้ไม่คลุกคลี เป็นผู้ปรารภความเพียร เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัศนะ ด้วย


พระโมคคัลลานะตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย ภิกษุ ๒ รูป ในพระศาสนานี้ กล่าวอภิธรรมกถา ทั้ง ๒ นั้น ถามกันและกัน ถามปัญหากันแล้ว ย่อมแก้กันเอง ไม่หยุดพักด้วย และธรรมกถาของทั้ง ๒ นั้น ย่อมเป็นไปด้วย


พระสารีบุตรตอบว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย ภิกษุผู้ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจ และไม่เป็นไปตามอำนาจของจิต หวังจะอยู่ด้วยวิหารสมาบัติใดในเวลาใด ก็อยู่ด้วยวิหารสมาบัตินั้นได้ในเวลานั้น


 พระเถระเหล่านั้นจึงเข้าไปหาพระพุทธเจ้าเพื่อให้ทรงพยากรณ์ เพื่อจะได้จำคำพยากรณ์นั้น



เมื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้ว พระสารีบุตรเล่าเหตุการณ์และคำพยากรณ์ของพระเถระแต่ละรูปให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระเถระแต่ละรูปได้พยากรณ์โดยชอบตามปฏิภาณของตน คำของพระเถระทั้งหมด เป็นสุภาษิตโดยปริยาย

แล้วทรงตรัสให้พระเถระฟังคำพยากรณ์ของพระองค์ว่า

ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุผู้กลับจากบิณฑบาตในเวลาหลังภัตแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติมั่นเฉพาะหน้าว่า จิตของเรายังไม่หมดความถือมั่น ยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพียงใด เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้เพียงนั้น


เสียงอ่าน มหาโคสิงคสาลสูตร



อ่านพระสูตรฉบับสมบูรณ์: http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=6877&Z=7105


ที่มา: http://www.uttayarndham.org

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัมพชาดก: มนต์เสื่อมเพราะลบหลู่ครูอาจารย์

คนที่ชอบด่าว่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น กรรมจะมาเร็วมาก เป็นกรรมทางวาจา มีผลร้ายแรงมาก

ใจสบายไปทั่วโลก กับบทแผ่เมตตาภาษาอังกฤษ