เราอยู่ระดับไหนกัน? บุคคล 7 ระดับ...ถ้าไม่หมั่นทบทวนและพัฒนาตนเอง เราอาจหล่นจากระดับสูงใกล้ฟ้า มาอยู่ระดับล่างกว่าผืนดินก็เป็นได้
มนุษย์บนโลกนี้มีมากมายหลายแบบ หลายระดับ เราพึงหมั่นทบทวนตนเองว่า
จิตใจและนิสัยของเรา ตอนนี้อยู่ในระดับไหน?
ถ้าไม่หมั่นทบทวนและพัฒนาตนเอง
เราอาจหล่นจากระดับสูงใกล้ฟ้า มาอยู่ระดับล่างกว่าผืนดินก็เป็นได้
และเราจะพัฒนาตนอย่างไร ให้อยู่ในระดับที่เป็นเป้าหมายของชีวิตเรา ?
บุคคล 7 ระดับ
1. อันธปุถุชน
หมายถึง บุคคลที่ยังเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นอยู่ตามเหตุปัจจัย ยังไม่สามารถอยู่ในศีลห้าได้ จิตใจยังมีความคิดอกุศล คิดดีบ้าง คิดชั่วบ้าง มีความขุ่นเคือง มีความอิจฉาริษยามากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
2. กัลยาณชน
หมายถึง บุคคลที่เว้นการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทางกายและวาจาได้แล้ว คือผู้ที่ถือศีลห้าได้เป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องสำรวมตนอยู่เสมอ เพราะถ้ามีเหตุปัจจัยรุมเร้าหนักๆ ก็อาจจะทำผิดศีลได้อีก จิตใจยังมีความคิดอกุศลอยู่ แต่มีความรู้สึกตัวเร็ว ไม่ปล่อยให้ความคิดอกุศลอยู่เหนือตนเองมากเกินไป
หมายถึง บุคคลที่เว้นการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทางกายและวาจาได้แล้ว คือผู้ที่ถือศีลห้าได้เป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องสำรวมตนอยู่เสมอ เพราะถ้ามีเหตุปัจจัยรุมเร้าหนักๆ ก็อาจจะทำผิดศีลได้อีก จิตใจยังมีความคิดอกุศลอยู่ แต่มีความรู้สึกตัวเร็ว ไม่ปล่อยให้ความคิดอกุศลอยู่เหนือตนเองมากเกินไป
3. พระโพธิสัตว์
หมายถึง บุคคลที่เว้นจากการเบียนเบียนผู้อื่นทางกายและวาจา คือบุคคลผู้ถือศีลห้าได้เป็นปกติ มีจิตคิดถึงผู้อื่นมากกว่าคิดถึงตนเอง มีความเสียสละ เมตตา และความอดทนสูงเกินคนปกติ แม้จิตใจยังมีความคิดที่เป็นอกุศลอยู่บ้าง แต่ความอกุศลนั้น ไม่ลุกลามถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้
หมายถึง บุคคลที่เว้นจากการเบียนเบียนผู้อื่นทางกายและวาจา คือบุคคลผู้ถือศีลห้าได้เป็นปกติ มีจิตคิดถึงผู้อื่นมากกว่าคิดถึงตนเอง มีความเสียสละ เมตตา และความอดทนสูงเกินคนปกติ แม้จิตใจยังมีความคิดที่เป็นอกุศลอยู่บ้าง แต่ความอกุศลนั้น ไม่ลุกลามถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้
4. พระโสดาบัน
5. พระสกทาคามี
6. พระอนาคามี
7. พระอรหันต์
หนทางแห่งการพัฒนาตนเอง
1. หมั่นกระทำพรหมวิหารสี่อยู่เสมอ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ลดความอยากมี อยากได้ อยากเป็น
ลดความโลภ โกรธ หลง
2. หมั่นพิจารณาในความดีและประโยชน์ของศีล และวางตนอยู่ในศีลอย่างเคร่งครัดโดยมีมุมมองต่อศีลว่า
ศีลคือความท้าทายในการใช้ชีวิตให้มีความดีงาม มิใช่กฏข้อห้ามที่ทำตามๆ กันไปอย่างไร้ปัญญา
3. หมั่นคิดตรึกตรองว่า ชีวิตคือความไม่แน่นอน ทุกสิ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป
4. หมั่นทำสมาธิให้มากพอ
5. หมั่นทำวิปัสสนาให้มากพอ
แม้ชีวิตนี้เกิดมาด้วยอัตภาพของความเป็นปุถุชน
แต่เราทุกคนก็มีศักยภาพที่จะพัฒนาจิตใจของตนเองได้
หากมีความอดทนและตั้งใจจริง!!!
ที่มา
https://www.facebook.com/Talktopasin/posts/861587270618456?fref=nf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น