เมื่อ “ลำปาง” ไม่หนาวเท่า “ลำพัง” : ความเหงาของเด็กและวัยรุ่น



มีเด็กคนหนึ่งถามผู้ใหญ่คนหนึ่งว่า : "เวลาหนูอยู่คนเดียว ทำอย่างไรจึงจะหายเหงา?"

ผู้ใหญ่ท่านนี้ตอบว่า : "บุคคลในโลกนี้ก็ล้วนแต่เคยเหงาด้วยกันทั้งนั้น ความเหงาจึงปรากฏแก่จิตใจของผู้คนเสมอ
บางคนก็เหงามาก….
บางคนก็เหงาน้อย….

คนที่สามารถบริหารจิตใจตนเองได้ จึงมักไม่เป็นเหยื่อของความเหงา มากเท่าไหร่
บุคคลนั้นย่อมเป็นคนที่สามารถบริหารจัดการความเหงาของตนเองได้อย่างฉลาด
โดยหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับตนเองได้
พวกเขาจึงมักเป็นคนร่าเริง มีความสุข ไม่เดือดร้อนใจ



บางคนไม่ฉลาดในการจัดการความเหงาของตนเอง จึงคิดว่าคนอื่นๆจะต้องมาแก้เหงาให้กับตน
ทีนี้ในยามที่คนอื่นแก้ไขให้ไม่ได้ หรือไม่มาแก้ไขให้ จิตใจของคนขี้เหงาพวกนี้ ก็จะเข้าถึงความเหงามากยิ่งขึ้น
เพราะพวกเขาไม่ยอมรับว่า เพื่อนแก้เหงาภายนอกนั้น บางครั้งก็หาได้บางครั้งก็หาไม่ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงหลงวางภาระความเหงาของตนเอง เอาไว้กับคนอื่นๆ จึงเดือดร้อนใจเป็นอันมาก



เพราะความจริงก็คือ ไม่มีใครมีสิทธิ์บังคับให้คนอื่น มาแก้เหงาให้แก่ตนเองได้ อย่างสะดวกเสมอไป
บางคนเมื่อหาวิธีแก้เหงาไม่ได้ ก็เร่เข้าหาสิ่งเสพติด มียาเสพติด มีเกมส์เร้าใจ ที่พาตนไปหมกมุ่นจนเสียหาย





บ้างก็ไปหมกมุ่นในเรื่องทางเพศ กลายเป็นเด็กหมดอนาคต พากันประพฤติในทางเสื่อม พากันติดโรค พากันตั้งท้อง และพากันไปทำแท้ง อย่างมากมาย ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน



และพากันฟุ้งซ่านไปกับความหยาบคาย ลามก ที่ปรากฏมากมายตามสื่อต่างๆ เป็นต้น
เด็กๆสมัยนี้ กลายเป็นคนขี้เหงามากขึ้น และบริหารความเหงาของตนไม่เป็น จึงพากันหลงทางไปอย่างน่าเสียดาย 



หากเด็กคนไหน เป็นเด็กฉลาด เมื่อรู้ตัวว่าเหงา ก็ไม่เป็นไร
ใครๆในโลกนี้ก็เหงากันได้ทั้งนั้น
ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะแก้ไขความเหงา ความทุกข์ ของตนได้ดีกว่ากัน
คนที่แก้ได้ดี ก็เป็นสุขกว่า
คนไหนแก้ไม่ดี ต่อไปในภายภาคหน้าก็จะเดือดร้อน และเป็นทุกข์มาก




แม้จะหาเพื่อนที่อื่นไม่ได้ แต่เด็กคนไหน ที่เป็นเด็กฉลาด ก็จะหันกลับมาหาใจที่ฉลาดของตน
และดึงมาเป็นเพื่อนของตนให้ได้ หากหาใจที่ดีเจอ เด็กๆก็จะไม่เหงา เพราะมีเพื่อนที่แสนดีเป็นที่สุด สามารถเรียกหาได้ ทุกๆเมื่อ



จิตใจที่ดีจะเข้ามาจัดการความเหงาของตนเอง ด้วยการยอมรับ และฉลาดในการแสวงหากิจกรรมอันเป็นประโยชน์ทำ ให้มาเพิ่มพูนความรู้และความดีให้เกิดกับตน 


เรื่องการแก้เหงา และเป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นได้ด้วยนั้น เป็นคุณสมบัติพิเศษของคนฉลาดเท่านั้น




แม้ในยามที่คุณพ่อคุณแม่ ท่านจำเป็นต้องทำงาน ไม่มีเวลาให้กับลูกจนลูกรู้สึกเหงา
หรือในยามที่เพื่อนๆไม่ว่าง ไม่สะดวก ห่างหายไปด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่
เด็กฉลาดก็จะหันกลับมาหาเพื่อนแท้ในใจของตน หากิจกรรมแก้เหงาที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองทำ

เพิ่มทักษะ ความชำนาญในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ดี ต่อตนเองและผู้อื่น นี้ชื่อว่า เป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว




คนที่เป็นปกติมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ย่อมเป็นคนไม่ขี้เหงาจนเกินไป
หากใครที่มีปกติชอบคิดสงสารตนเองจนเกินไป ก็จะเป็นคนขี้เหงาได้โดยมาก




ดังนั้น ไม่ว่าใครก็เหงาได้ แต่อย่าปล่อยใจให้จมดิ่งกับความเหงา จนหมดความสุข



พึงเอาเวลามาทำประโยชน์ ให้เกิดกับตนเองและผู้อื่น เข้าไว้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีและยอดเยี่ยมได้ "





ที่สำคัญหาใจที่ดีให้เจอ ก็จะไม่เหงา เพราะมีเพื่อนที่แสนดีเป็นที่สุด
"คนกลางกาย"







ที่มา:


ความคิดเห็น

  1. สัมมา อะระหัง ให้มากๆ บ่อยๆทุกลมหายใจเข้าออกแล้วจะไม่เหงาเลย

    ตอบลบ
  2. ความเหงาแก้ไม่ยาก เพียงเราวางใจเบาๆ ณ กลางท้อง นึกถึงดวงแก้วหรือสิ่งที่เรารักไว้ที่กลางท้อง แล้วภาวนาเบาๆ "สัมมา อะระหัง" สักครู่ก็หายเหงาใจมีพลังบริสุทธิ์ แล้วค่ะ

    ตอบลบ
  3. เพื่อนที่แสนดีอยู่กลางกายนี่เอง หาให้เจอแล้วจะสุขไม่เหงาหงอย

    ตอบลบ
  4. ขอขอบคุณสำหรับบทความดีๆแบบนี้ด้วยครับ

    ตอบลบ
  5. ขอบพระคุณและอนุโมทนา สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณสำหรับบทความ คำถามและคำตอบ ที่ดีๆ สาธุค่ะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัมพชาดก: มนต์เสื่อมเพราะลบหลู่ครูอาจารย์

คนที่ชอบด่าว่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น กรรมจะมาเร็วมาก เป็นกรรมทางวาจา มีผลร้ายแรงมาก

ใจสบายไปทั่วโลก กับบทแผ่เมตตาภาษาอังกฤษ