เศรษฐีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปโปรดหลายครั้ง แต่ไล่พระองค์ออกจากบ้านและด่าว่า ตายแล้วไปเกิดเป็นสุนัข
แรงกลแรงยนต์แรงจักร
แรงช้างแรงยักษ์แรงหนักหนา
แรงอื่นดาษดื่นในโลกา
ก็ไม่แรงแข็งกล้ากว่าแรงกรรม
ตายแล้วก็เวียนเกิดกำเนิดใหม่
ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏหมดทางหนี
ตายแล้วเกิดเกิดแล้วตายแต่ละที
จะเกิดดีตายดีอยู่ที่กรรม
ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่นั้น
ณ เมืองสาวัตถี มีพราหมณ์คนหนึ่งร่ำรวยมาก ถึงขั้นมหาเศรษฐีทีเดียว ชื่อว่า
โตเทยยพราหมณ์ เขามีบุตรชายอยู่หนึ่งชื่อสุภมาณพ พราหมณ์คนนี้มีสมบัติมหาศาล มีถึง
๘๙ โกฏิ แต่พราหมณ์คนนี้ไม่เคยทำบุญเลย
แม้แต่ข้าวสุกสักทัพพีเดียวก็ไม่เคยใส่บาตรให้พระสงฆ์
มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัดเชตวันนัก ไม่เคยยกมือไหว้พระสงฆ์เลย แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเขาก็ไม่นับถือ
ดอกไม้สักกำเขาก็ไม่เคยถวายพระ
โตเทยยพราหมณ์เป็นคนที่มีความตระหนี่
มีสมบัติมากแต่ตระหนี่ไม่มีศรัทธา เป็นคนมิจฉาทิฏฐิมีความเห็นผิด
พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดโตเทยยพราหมณ์หลายครั้ง แต่ถูกไล่ออกจากบ้าน
ต่อมาโตเทยยพราหมณ์นั้นตาย
ด้วยที่เป็นคนมัวเมาลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ ไม่ได้กระทำบุญ
กระทำกุศล โตเทยยพราหมณ์ นั้น
จึงไปเกิดเป็นสุนัขในบ้านของตนเป็นสุนัขตัวผู้เมื่อสุนัขนั้นโตขึ้น
วันหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอานนท์ เสด็จไปบิณฑบาตที่บ้านของโตเทยยพราหมณ์
สุนัขนั้นได้มาเห่าหอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงทราบด้วยพระญาณว่า “สุนัขนี้คือ
โตเทยยพราหมณ์นั่นเอง ที่เคยด่าเคยว่าเราตถาคต” จึงตรัสว่า “ดูก่อนโตเทยยพราหมณ์
เมื่อก่อนนี้เจ้าก็ด่าว่าเรา เมื่อตายไปเกิดเป็นสุนัขแล้วยังมาเห่าอีกหรือ”
เมื่อพระองค์ตรัสดังนั้น สุภมาณพบุตรชายได้ยินเข้าก็โกรธพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหาว่าดูถูกพ่อของตนว่ามาเกิดเป็นสุนัข
พระพุทธองค์ ทรงต้องการจะให้สุภมาณพพิสูจน์ดู
จึงทรงให้สุภมาณพเอาสุนัขตัวนั้นไปอาบน้ำ แล้วก็เอาอาหารอย่างดีให้กิน
เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ถามว่าขุมทรัพย์อยู่ที่ใด โตเทยยพราหมณ์ในร่างสุนัขได้ไปยังที่ที่ตนฝังขุมทรัพย์เอาไว้เอาตีนไปตะกุยดิน
สุภมาณพก็ไปขุดดู พบสมบัติหลายอย่าง
สุภมาณพจึงเชื่อว่าพ่อของตนไปเกิดเป็นสุนัขจริง เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงได้ทูลถามปัญหากับพระพุทธเจ้าว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะเหตุใดบางคนที่เกิดมาในโลกนี้
จึงเป็นคนมั่งมีด้วยสมบัติ เพราะเหตุใดบางคนยากจน เพราะเหตุใดบางคนจึงรูปร่างสวย
เพราะเหตุใด บางคนจึงขี้เหร่ เพราะเหตุใดบางคนอายุยืน เพราะเหตุใดบางคนอายุสั้น
เพราะเหตุใดบางคนจึงมีปัญญาดี เพราะเหตุใดบางคนจึงโง่เขลา
เพราะเหตุใดบางคนจึงมียศศักดิ์สูง เพราะเหตุใดบางคนจึงเป็นคนไร้ยศศักดิ์”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า “ดูก่อนสุภมานพ บุคคลที่เกิดมาในชาตินี้เป็นคนมั่งมีทรัพย์สมบัติ
ก็เพราะว่าในชาติปางก่อนเป็นคนเคยให้ทานไว้มาก
มาในปัจจุบันนี้ก็เป็นคนมีความขยันหมั่นเพียร
ส่วนคนที่เกิดมายากจนเพราะไม่ได้เคยให้ทานไว้ในชาติปางก่อน
และในปัจจุบันก็เป็นคนเกียจคร้านไม่ทำงาน
คนที่เกิดมารูปร่างสวยนั้น เพราะชาติก่อนเป็นคนที่เคยรักษาศีลมีเมตตากรุณา
เป็นคนไม่โกรธง่าย
เป็นเหตุให้เกิดมาเป็นคนมีรูปร่างสวยส่วนคนที่ขี้เหร่นั้นเป็นคนไม่รักษาศีล
เป็นคนฉุนเฉียวง่าย เป็นคนมักโกรธจึงเป็นเหตุให้รูปร่างขี้เหร่
คนที่เกิดมาแล้วอายุยืน ก็เพราะเป็นคนที่ไม่เบียดเบียนสัตว์
และไม่ทำลายชีวิตของสัตว์ ส่วนคนที่เกิดมาแล้วอายุสั้นนั้น
เพราะว่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากทำลายชีวิตสัตว์มาก จึงทำให้อายุสั้น
บางคนที่เกิดมาแล้วมีสติปัญญานั้นก็เพราะว่า
ในชาติก่อนได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาการมามาก สดับรับฟังพระธรรมมามาก
ได้ประพฤติปฏิบัติธรรมมามาก ได้ให้ธรรมเป็นทานมากเป็นเหตุให้มีสติปัญญา
ส่วนบางคนโง่เขลาเบาปัญญาเพราะไม่เคยเล่าเรียนศึกษาวิชาการ ไม่ฟังธรรม
ไม่ให้ธรรมะเป็นทานไม่เคยปฏิบัติธรรมะ
บางคนที่เกิดมามียศถาบรรดาศักดิ์สูงนั้น
เพราะว่าในชาติก่อนเป็นผู้ที่ไม่อิจฉาริษยาใคร ใครได้ดีก็แสดงความยินดีด้วย ส่วนคนที่เกิดมามียศถาบรรดาศักดิ์น้อยหรือไร้ยศถาบรรดาศักดิ์นั้น
เพราะในชาติก่อนเป็นผู้อิจฉาริษยาผู้อื่น เห็นเขาได้ดีแล้วทนไม่ได้ หาทางลิดรอนไม่อยากให้คนอื่นได้ดี"
สุภมาณพได้ฟังแล้วก็เลื่อมใสได้ประกาศตัวนับถือต่อพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งระลึก
ส่วนสุนัขนั้นก็ตายไปเกิดในนรกอเวจีตามกรรมของตน
ที่มา: https://sites.google.com/site/dhammatharn/hetukarn-ni-phuthth-prawati
สาธุๆค่ะ ^_^
ตอบลบกฎแห่งกรรม ซื่อตรงคงที่เสมอ พุทธศาสนิกชนเลือกที่จะปฏิบัติตนต่อพระด้วยความเคารพเป็นทางมาแห่งบุญสู่ตนเอง สาธุ
ตอบลบทีแรกนึกว่าบุญเยอะขนาดด่าพระพุทธเจ้าแล้วยังได้เป็นสุนัข ไม่ลงอเวจี ที่แท้ยังหวงสมบัติอยู่
ตอบลบบุญเท่านั้นที่จะนำพาชีวิตของเราให้ประสบกับความสุขและความสำเร็จ
ตอบลบน่าคิดนะครับเข้ากับยุคนี้เลยทีเดียวแต่เขาจะสนใจอ่านบ้างใหมหนอ
ตอบลบกราบอนุโมทนา
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ตอบลบสาธุๆ สาธุครับ
กฏแห่งกรรม ไม่เคยลืมผู้กระทำ
"ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา"
ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ ความจริงก็คือความจริง กฎแห่งกรรมมีจริงและไม่เคยลืมผู้กระทำ
ตอบลบกฎแห่งกรรม ทำงานของมันอยู่เสมอและไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่าเศรษฐีหรือยาจก
ตอบลบน่ากลัวมาก ต้องระวังทุกคำพูด และการกระทำ บุญ บาป มีจริง และน่ากลัวมาก
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบ