"ยามเกิดโทสะให้หยุดพัก ยามอยู่ลำพังให้พิจารณาตนเอง"

1. การออกกำลังกายเป็นเรื่องแปลก

สำหรับคนที่ออกกำลังกายกับคนที่ไม่ออกกำลังกาย

ผ่านไปหนึ่งวัน ไม่มีอะไรต่างกัน

ผ่านไปหนึ่งเดือน เริ่มมีอะไรแตกต่าง

ผ่านไปหนึ่งปี ความแตกต่างเริ่มเห็นชัด หรืออาจไม่ต่างอะไรมากมาย

แต่เมื่อผ่าน5-10ปี ชีวิตชีวาและรูปร่างจะเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อผ่านไป10ปี เมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกันอาจดูเหมือนคนละวัย

2. การอ่านหนังสือเป็นเรื่องแปลก

"อ่านหนังสือมาก ความคิดสีหน้าแววตาจะเปลี่ยนไป"

การอ่านหนังสือเป็นการเปิดโลกทัศน์ เรื่องบางเรื่องที่อ่าน อาจใช้ประโยชน์กับตนเองไม่ได้ในตอนนี้ แต่ส่งผลทางด้านความคิดและวิธีการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ในทันที

เรื่องบางเรื่องอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตนเองในทันที แต่อาจช่วยแก้ไขเรื่องราวชีวิตคนอื่นได้ในทันที

3. ความเกียจคร้านเป็นเรื่องแปลก

ความเกียจคร้านมักจะบอกกับคุณว่า

"มันใช่ความขี้เกียจที่ไหน มันคือความสบาย คือการพักผ่อน คือความสุขต่างหากเล่า!"

แต่ที่จริงแล้ว มันทำให้คุณเบื่อหน่าย เหนื่อยหน่ายและอ่อนล้าต่างหาก

มันจะปิดปังความเจริญในชีวิตคุณ มันจะคอยตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างญาติมิตร มันจะทำให้ใจของคุณแคบลง และมันจะทำให้คุณยิ่งมายิ่งลังเลต่อการมีชีวิต

4. เวลาเป็นเรื่องแปลก

เวลาให้ประสบการณ์ ให้ความรู้ ให้คุณค่าแก่คุณ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ให้ความชรา ให้ริ้วรอย ให้ความผิดหวังกับคุณเช่นกัน

มันทำให้คุณในขณะนี้และรูปที่ถ่ายไว้ยิ่งมายิ่งแตกต่างกัน

มันทำให้เรื่องราวที่บาดหมางยิ่งมายิ่งรุนแรง และกับบางคนยิ่งมาก็ยิ่งเบาบาง

มันทำให้ครอบครัวยิ่งมายิ่งแนบเเน่น และกับบางครอบครัวยิ่งมากลับยิ่งเปราะบาง

มันทำให้ความรู้สึกดีๆกับใครบางคนยิ่งมายิ่งผูกพัน แต่กับบางคนยิ่งมากลับยิ่งห่างเหิน

อย่าเอาแต่พูดว่า

"รอให้มีเวลาก่อนฉันค่อยออกกำลังกาย

รอให้ฉันมีเงินก่อนฉันค่อยกตัญญู

รอให้ฉันว่างเสียก่อนแล้วค่อยไปไหนกับเธอ

รอให้ฉันประสบความสำเร็จก่อนแล้วค่อยทำความดี"

เพราะอะไร?

เพราะถึงเวลาที่คุณมีเงิน สุขภาพเริ่มทรุดโทรม

ถึงเวลาที่พอมีเงิน พ่อแม่อาจรอไม่ไหวเสียแล้ว

ถึงเวลาที่ว่าง คนรักอาจตีจาก

ถึงตอนนั้นที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ความคิดอาจไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว

ฝากไว้ให้คิด

"ยามมีสติให้ทำงาน ยามสติห่างหายให้ออกกำลังกาย ยามเกิดโทสะให้หยุดพัก ยามอยู่ลำพังให้พิจารณาตนเอง"

ที่มา: 

นุสนธิ์บุคส์