มีคนเปรียบว่า เขาคือ "มฆมาณพ ยุคพุทธกาลล่วงมา๒,๖00ปี"

มฆมาณพ ยุคพุทธกาล

มฆมาณพ คืออดีตชาติของ ท้าวอมรินทร์เทวาธิราช (พระอินทร์) 

พระอินทร์เป็นตำแหน่งของพระราชาแห่งเทพทั้งปวง ในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตำแหน่ง นี้จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน ไปตามผลแห่งบุญกรรมที่ได้กระทำไว้ พระอินทร์องค์ใดสิ้นบุญ ก็จะมีองค์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ กล่าวได้ว่า พระอินทร์นั้นมีหลายองค์ แต่ละองค์ก็มีอายุขัยเป็นไปตามบุญกุศลที่ตนได้กระทำมา

   เรื่องราวของพระอินทร์น่าจะเป็นบทเรียนที่ช่วยให้รู้และเข้าใจถึงการทำ ประโยชน์เพื่อส่วนรวม ว่าท่านคิดอะไรถึงได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้การได้เรียนรู้วิธีคิดและการกระทำของพระอินทร์ เป็นสิ่งที่เราสามารถกระทำตามได้ไม่ยาก ไม่ใช่เรื่องห่างไกลและเฟ้อฝันเลย เพราะตัวท่านเองก็ได้ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ในขณะที่ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน  ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงพระอินทร์สมัยพุทธกาลเท่านั้น

อดีตชาติของพระอินทร์

          ณ  หมู่บ้านมจลคาม แคว้นมคธ มีมาณพคนหนึ่งชื่อว่า มฆมาณพ มีใจใฝ่ให้ทาน รักษาศีลอยู่เสมอ ทั้งยังชอบแผ้วทาง ทำงานสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน สร้างศาลา ปลูกต้นไม้ ขุดสระน้ำ ทำถนนหนทาง ทำสะพาน จัดทำจัดหาตุ่มน้ำ และสิ่งทั้งหลายเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม มีปกติชอบความสะอาดเรียบร้อย ต้องการให้ท้องถิ่นดูสะอาดน่ารื่นรมย์

คิดดี คิดถูก คิดเป็น นำมาซึ่งความสุข

          ขณะที่มฆมาณพทำงานในหมู่บ้าน ก็ใช้เท้าเกลี่ยฝุ่นในที่ซึ่งยืนอยู่ให้เรียบ คนอื่นเข้ามาแย่งที่ ก็ไม่โกรธ กลับถอยไปทำที่อื่นให้เรียบต่อ แต่ก็ยังมีคนมายึดที่ที่เกลี่ยเรียบไว้แล้วนั้นอีก ถึงกระนั้นมฆมาณพก็ไม่โกรธ กลับเห็นว่าคนทั้งปวงมีความสุขด้วยการ กระทำของตน ฉะนั้นกรรมนี้ ย่อมส่งผลกลับมาเป็นบุญที่ให้สุขแก่ตนแน่

          มฆมาณพก็ยิ่งมีจิตขะมักเขม้น ตั้งใจที่จะทำพื้นที่ให้เป็นที่น่ารื่นรมย์มากยิ่งๆ ขึ้น จึงใช้จอบขุดปรับพื้นที่ให้เรียบเป็นลานให้แก่คนทั้งหลาย  ทั้งยังเอาใจใส่ให้ไฟให้น้ำในเวลาที่ต้องการและได้แผ้วถางสร้างทางสำหรับคน

          ต่อมามีชายหนุ่มอีกหลายคนได้เห็นก็มีใจนิยมมาสมัคร เป็นสหายร่วมกันทำทางเพิ่มขึ้น จนมีจำนวนนับได้ ๓๓ คน ทั้งหมดช่วยกันขุดถมทำถนนยาวออกไป จนถึงประมาณโยชน์หนึ่งบ้างสองโยชน์บ้าง

เมื่อประพฤติธรรม ย่อมไม่หวั่นภัยใด ๆ

          ฝ่ายนายบ้านเห็นว่าคนเหล่านั้นประกอบการงานที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควร จึงเรียกว่าสอบถามและสั่งให้เลิก แต่มฆมาณพและสหายกลับกล่าวว่า พวกตนทำทางสวรรค์ จึงไม่ฟังคำห้ามของนายบ้าน พากันทำประโยชน์ต่อไป นายบ้านโกรธและไปทูลฟ้องพระราชาว่า มีโจรคุมกันมาเป็นพวก พระราชามิได้พิจารณาไต่สวน หลงเชื่อมีรับสั่งให้จับมฆมาณพและสหายมา แล้วปล่อยช้างให้เหยียบเสียให้ตายทั้งหมด

          ฝ่ายมฆมาณพเห็นเช่นนั้นก็ได้ให้โอวาทแก่สหายทั้งหลาย ไม่ให้โกรธผู้ใดและให้แผ่เมตตาจิตไปยังพระราชา นายบ้าน ช้างและตนเอง ให้เสมอเท่ากัน ชายหนุ่มทั้งหมดได้ปฏิบัติตาม ช้างไม่สามารถเข้าใกล้ด้วยอำนาจเมตตา

          พระราชาเห็นดังนั้นจึงรับสั่งให้ใช้เสื่อลำแพนปูปิดคนเหล่านั้นเสีย แล้วปล่อยให้ช้างเหยียบอีก แต่ช้างกลับถอยไป พระราชารับสั่งให้นำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้า แล้วตรัสสอบถาม เมื่อทรงทราบความจริง ก็ทรงโสมนัสและทรงแต่งตั้งมฆมาณพให้เป็นนายบ้านแทนนายบ้านคนเดิม ซึ่งตอนนี้ถูกลงโทษให้เป็นทาส

บุญเท่านั้น ที่เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย

          สหายทั้ง ๓๓ คน นอกจากจะได้พ้นโทษออกมา ยังได้รับพระราชทานกำลังสนับสนุน ก็ยิ่งเห็นอานิสงส์ของบุญ มีใจผ่องใสคิดทำบุญให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก ได้สร้างศาลาเป็นที่พักของมหาชนเป็นถาวรวัตถุที่หนทางใหญ่สี่แพร่ง

          ศาลานั้นได้แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือ ส่วนหนึ่งเป็นที่อยู่ที่พักสำหรับคนทั่วไป ส่วนหนึ่งสำหรับคนเข็ญใจ ส่วนหนึ่งสำหรับคนป่วย ทั้ง ๓๓ คนได้ปูลาดแผ่นอาสนะไว้ทั้ง ๓๓ ที่ โดยตกลงกันไว้ว่า ถ้าอาคันตุกะเข้าไปพักบนแผ่นอาสนะของผู้ใด ก็ให้เป็นภาระของผู้นั้นจะรับรองเลี้ยงดู มฆมาณพยังได้ปลูกต้นทองหลาง (โกวิฬาระ) ไว้ต้นหนึ่งในที่ไม่ไกลจากศาลา ภายใต้ต้นทองหลางได้วางแผ่นหินไว้ด้วย

          มฆมาณพและสหายบำเพ็ญสาธารณกุศลเช่นนี้ตลอดชีวิต เรียกว่า บำเพ็ญวัตตบท ๗ ประการ  ครั้นสิ้นอายุได้บังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

วัตตบท ๗ ประการได้แก่

๑. เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต

๒. ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต

๓. มีวาจานุ่มนวลสุภาพตลอดชีวิต

๔. มีวาจาไม่ส่อเสียดตลอดชีวิต

๕. มีใจปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการแจกทาน ครองเรือนตลอดชีวิต

๖. มีวาจาสัตย์จริงตลอดชีวิต

๗. ไม่โกรธ แม้ว่าถ้าโกรธก็ระงับได้ทันทีตลอดชีวิต

ความเพียร

          ในคราวที่สุวีวรเทวบุตรขอพรกับพระอินทร์ ว่าขอให้ตนได้เป็น "ผู้ที่เกียจคร้าน ไม่ขยันหมั่นเพียร ไม่ทำกิจที่ควรทำ แต่ก็ได้รับความสำเร็จทุกอย่างตามที่ปรารถนา"

    พระอินทร์ทรงตรัสเพื่อให้คิดว่า

          "คนเกียจคร้านบรรลุถึงความสุขอย่างยิ่งในที่ใด ก็ให้ท่านจงไปในที่นั้นเอง และช่วยบอกให้ข้าพเจ้าได้ไปในที่นั้นด้วย"

          ถึงกระนั้น สุวีรเทวบุตรก็ยังขอพรว่า "ขอพระองค์ได้โปรด ประทานพรความสุขชนิดที่ไม่มีทุกข์โศก โดยไม่ต้องทำอะไรเลย"

          พระอินทร์ตรัสว่า "ถ้าจะมีใครดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ต้อง ทำอะไรในทิศทางไหน นั่นเป็นทางนิพพานแน่ ให้ท่านจงไปและช่วยบอกข้าพเจ้าให้ไปด้วย"

ขันติธรรม

          ในสงครามคราวหนึ่งฝ่ายเทวดาชนะอสูร ท้าวเวปจิตติอสุรินทร์ถูกจับได้และถูกพันธนาการมายังสุธัมมสภา ขณะที่เข้าและออกจากสภา ก็ได้บริภาษด่าพระอินทร์ด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่างๆ แต่พระอินทร์ก็ไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย

          พระมาตลีเทพสารถีจึงทูลถามพระอินทร์ว่า "ทรงอดกลั้น ได้เพราะกลัว หรือว่า เพราะอ่อนแอ"

          พระอินทร์ตรัสว่า "เราทนได้ไม่ใช่เพราะกลัว ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่วิญญูชนเช่นเราจะตอบโต้กับพาลได้อย่างไร"

          พระมาตลีแย้งว่า "พาลจะกำเริบถ้าไม่กำหราบเสีย เพราะฉะนั้นผู้มีปัญญาพึงกำหราบเสียด้วยอาชญาอย่างแรง"

          พระอินทร์ "เมื่อรู้ว่าเขาโกรธแล้วมีสติสงบลงได้ นี่แหละ เป็นวิธีกำหราบพาล

          พระมาตลีก็ยังแย้งว่า "ความอดกลั้นดังนั้นมีโทษ พาลจะเข้าใจว่าผู้นี้อดกลั้นเพราะกลัว ก็จะยิ่งข่ม เหมือนโคยิ่งหนีก็ยิ่งไล่"

          พระอินทร์ "พาลจะคิดอย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของตนสำคัญยิ่ง และไม่มีอะไรจะยิ่งไปกว่าขันติ ผู้ที่มีกำลัง อดกลั้นต่อผู้ที่อ่อนแอ เรียกว่าขันติอย่างยิ่ง เพราะผู้ที่อ่อนแอ ต้องอดทนอยู่เองเสมอไป ผู้ที่มีกำลังและใช้กำลังอย่างพาล ไม่เรียกว่า มีกำลัง ส่วนผู้ที่มีกำลังและมีธรรมะคุ้มครอง ย่อมไม่โกรธตอบ

          ผู้โกรธตอบผู้โกรธ  หยาบมากกว่าผู้โกรธทีแรก ส่วนผู้ที่ไม่โกรธตอบผู้โกรธชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะได้ยาก ผู้ที่รู้ว่าเขาโกรธ แต่มีสติสงบได้ ชื่อว่าประพฤติประโยชน์ทั้งแก่ตนและผู้อื่น  แต่ผู้ที่ไม่ฉลาดไม่รู้ธรรมก็ย่อมจะเห็นผู้ที่รักษาประโยชน์ตนและผู้อื่น ทั้งสองฝ่ายดังกล่าว ว่าเป็นคนโง่เสีย"

ความไม่โกรธ

        ครั้งหนึ่งพระอินทร์เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วทูลถามว่า "ฆ่าอะไรได้อยู่เป็นสุข ฆ่าอะไรได้ไม่โศก" พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า "ฆ่าความโกรธ"

          คราวหนึ่งพระองค์ทรงอบรมเทพทั้งหลายว่า ให้มีอำนาจเหนือความโกรธ อย่าจืดจางในมิตร อย่าตำหนิผู้ไม่ควรตำหนิ อย่ากล่าวส่อเสียด อย่าให้ความโกรธเข้าครอบงำ อย่าโกรธตอบผู้โกรธ ความไม่โกรธและความไม่เบียดเบียนมีอยู่ในพระอริยะทั้งหลายทุกเมื่อ ความโกรธทับบดคนบาปเหมือนภูเขา

          จะเห็นได้ว่าคุณธรรมที่พระอินทร์ทรงประพฤติปฏิบัติทั้งขณะที่เป็นมนุษย์และ เทวดา เป็นสิ่งที่เราสามารถกระทำตามได้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์โดยหวังผลคือ ความสุขของส่วนรวม

มีคนเปรียบว่า เขาคือ "มฆมาณพ ยุคพุทธกาลล่วงมา ๒,๖00ปี"

"เป็นปรากฎการณ์ สิ่งดีงาม ที่เกิดขึ้น และมีผลดีๆ ตามมาหลายด้านเหลือเกิน คนไทย ชาติไทยยังมีหวัง การรวมตัว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นของพี่ตูนและทีมงาน สามารถหลอมรวมใจไทยทั้งชาติ ..ทำดีเพื่อผู้อื่น"

"ขออนุโมทนาบุญกับกุศลจิตอันบริสุทธิ์ของลูกผู้ชายชื่อตูน ขอให้ประสพความสำเร็จตามที่ตูนหวังไว้ด้วยค่ะ สาธุ"

"น้ำตาจะไหล ดู live ทุกวัน ยิ่งวันนี้ชาวหาดใหญ่สุดยอดค่ะ ก้าวคนละก้าว"

"จริง ไม่ใช่นักร้องแล้วเป็นนักบุญไปแล้ว"

"สิ่งดีงาม กำลังเกิดในสังคมไทย ขอให้ปรากฏการณ์ดีๆแบบนี้คงอยู่ให้ยาวนานค่ะ"

"เคยเจอตัวจริงค่ะ คุณตูนน่ารักมากจริงๆเป็นธรรมชาติ อ่อนน้อม จริงใจค่ะ"

ตูน ชนะใจผู้คนทุกวัย

ความอ่อนน้อมถ่อมตนของตูนนั้นโดดเด่น 

                                     อ่อนน้อมน่ารัก เปิดคลิป "ตูน บอดี่แสลม" นักไหว้สายย่อ(เข่า)

ความอ่อนน้อมต่อรุ่นพี่ในวงการฯ

"ตูน" ส่งพี่สาวเรียนจบปริญญาโท2ใบ ปริญญาเอก1ใบ และความอ่อนน้อมสุภาพต่อพี่สาว

" มีใครเคยเขียนไว้ว่า หัวใจพี่ตูนแข็งแรงกว่าขา น่าจะจริงนะคะ "

"สิ่งดีๆ ที่ทำได้ยาก แต่ตูนกำลังทำ นับถือความมุ่งมั่นจริงๆ ขอให้สำเร็จตามที่หวัง ขอให้พวกเราช่วยกัน ช่วยตูน ช่วยประเทศไทย"

"มีแต่เรื่องราวประทับใจทุกวันเลยค่ะ อ่านแล้วสุขในใจ"

"รักด้วยค่ะ ตื้นตันใจทุกครั้งกับกิริยาที่ปฏิบัติต่อผู้อื่น"

"ละเอียดอ่อนใจดีมีเมตตา  พลังบวกมาเต็ม ^^ 

ถ้าโลกเรามีคนแบบนี้เยอะๆ คงดีมากๆเลยนะคะ"

"เคยฟังบุญที่พระอินทร์ทำตอนเป็นมาณพหนุ่มๆ ชวนเพื่อนไม่กี่คนสร้างทางให้ชาวบ้าน..

โครงการกล้าตายวิ่ง ใต้ จรดเหนือ.. กุศล ของคุณตูน... ยิ่งใหญ่มากมาย จนคิดไม่ออกว่า.. อานิสงค์สละชีวิตที่อาจตายได้จากการวิ่ง ชวนคนสร้างความดี ช่วย รพ. จะส่งผลขนาดไหน.. สาธุๆๆๆ"

"มีคนตั้งคำถามว่า ทำไมคุณตูนต้องเหนื่อย ขนาดนี้ เปิดบัญชี รับบริจาคเฉยๆไม่ได้เหรอ ตอบเขาไปว่าการลงมือทำ และเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างสองข้างทางมันมีคุณค่า มีความสุขเกิดขึ้น ที่บางครั้งมีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้"

"ความรู้สึกเป็นสุข ตื้นตัน มันมีค่ามากกว่า ๗๐๐ ล้าน หรือไม่สามารถประมาณค่าได้ ทุกครั้งที่อ่านข่าวเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ จิตมันอิ่มเอม จุกจนน้ำตาเอ่อ จิตบอกเสมอด้วยความนอบน้อม ให้อนุโมทนาสาธุในบุญที่เขาทำ

สำหรับเราส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่า สิ่งที่คุณตูนทำ คือ ความกล้า เชื่อมั่นในการทำความดี ด้วยใจใสสะอาด เด็ดเดี่ยว และ มั่นคง เธอกล้าแสดงออกถึงพลังแห่งความดี และ แสดงให้เห็น"

"ทุกวันนี้ คนเรามีทัศนคติที่แปลกออกไปมาก คนมีดีมักไม่อวด คนอวดมักเป็นคนไม่ค่อยมี คนดีศรีโซเชี่ยลเห็นได้ทั่วไปตามสังคมออนไลน์ความจริงคืออะไร ใช่หรือไม่ ไม่รู้ เห็นแค่ภาพ ที่ผ่านแอ๊ป กับ ตัวอักษร ที่บรรจงร้อยเรียง นั่นทำให้หลายคน กลัวคนดี คือ ระแวง และ คนดีกระดากในการแสดงออกบางคราวเวลาทำความดี สิ่งที่คุณตูนทำ ทำให้คนดีไม่ท้อถอยที่จะมุ่งมั่นทำความดีต่อ และ ทำให้หลายๆ คน ที่คิดจะทำความดี ได้เริ่มลงมือทำ"

"จิมมี่ ชวาลา" เศรษฐีใจบุญเมืองคอน เตรียมบริจาคเงิน ๑๖ ล้านบาทสนับสนุนโครงการ"ก้าวคนละก้าว"

"เรามองว่า สิ่งที่คุณตูนทำ มีค่ามากมายกว่าจำนวนเงิน ๗๐๐ ล้าน

นัก ตัวเงิน ๗๐๐ ล้านไม่ใช่เรื่องหลัก ประเด็นคือ ความต้องการให้หลายๆ คนเล็งเห็น ความสำคัญ ปัญหา และ ความเสียสละ"

"เงิน ๑0 บาทต่อคน จุดเริ่มต้นของ การทำดี ..

 คิดว่าสิ่งที่พี่ตูนทำนั้น ประสบความสำเร็จยิ่งกว่านโยบายดับไฟใต้ตั้งแต่มีมา เพราะว่างานพี่ตูนนี้ ทำให้คนใต้ได้ชื่นช่ำหัวใจจริงๆ และทำให้รู้สึกว่า เราทั้งประเทศคือคนไทยด้วยกัน" 

"มีความสุขทุกครั้งที่อ่านข่าวพี่ตูนค่ะ คนๆนึงที่กล้าฝันใหญ่ แล้วใช้ทั้งแรงกายแรงใจลงมือทำจริง แถมความฝันนั้นไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนอื่น เป็นอะไรที่แค่เราได้รู้เห็นก็รู้สึกอิ่มใจไปด้วย สิ่งที่พี่ตูนมอบให้คนไทยไม่ใช่แค่จำนวนเงิน แต่เป็นการ " #ปลูกจิตสำนึก " ให้คนจำนวนมากอยากดีตาม อยากทำอะไรดีๆให้ประเทศตามความสามารถของตัวเอง สิ่งนี้ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้เลย"

"น้ำตาซึมปลื้มปริ่มตลอดๆค่ะ #มหาทาน ชอบคำนี้จังเลย จริงค่ะต่อให้กี่พันล้านก็แก้ไม่ได้ แต่เรามีหน้าที่ทำดีเท่าที่เรามีกำลัง มีตูนและทุกๆคนที่ร่วมวิ่งไปด้วยกันเป็นสะพานบุญก็ชื่นใจอิ่มใจค่ะ"

"รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน ความจริงใจ เสียสละ มีน้ำใจ รวมๆกันอีกหลายอย่างที่รุ้สึกได้ ประเสริฐจริงๆ ค่ะ สิบบาททุกวัน ไม่เสียดายเลย เป็นกำลังใจให้เค้าและคณะค่ะ"

"ได้ดูพี่ตูนผ่านสื่อครั้งใด น้ำแห่งความปิติสุข ตื้นตันในคุณความดี แสดงออกมาด้วยความงดงาม นอบน้อมถ่อมตัว เข้มแข็งสวยงามจริงๆ"

"คนๆเดียวแต่พลังยิ่งใหญ่มาเต็มๆ

คุณภาพวัดได้เป็นรูปธรรมจากมวลชนที่ออกมาร่วมทำความดีเป็นใจเดียวกัน กำลังใจกำลังทรัพย์มหาศาลจริงๆ.... เห็นกรรมดีในรูปแบบนี้แล้วใจพองโตด้วยความรักและศรัทธามาเต็มเลยค่ะ #พี่ตูนสุดยอด💪"

"เงิน๗๐๐ ล้านมีค่าน้อยนัก ถ้าเทียบกับความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ อิ่มเอมใจ ของคนไทย ที่เกิดขึ้นในเวลานี้"

"ลองทบทวนดูว่า
ชั่วชีวิตคุณมีกี่ครั้ง
ที่อ่านข่าวแล้วยิ้ม
เกิดความปลื้มปีติ
เหมือนได้ทำบุญใหญ่
ไปพร้อมๆกันกับคนทั้งประเทศ
ต่อเนื่องกันหลายๆวัน?

ความสุขที่มีมวลรวมมหาศาล
ให้คนจำนวนหลายสิบล้าน
ได้ชุ่มฉ่ำไปด้วยกัน
ต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงซื้อได้?

อ่านข่าวตูนแต่ละครั้ง
เห็นผู้คนแห่ให้กำลังใจล้นหลาม
ถ้าเกิดความตื้นตันจุกคอหอย
เกิดความอยากร่วมด้วยช่วยกัน
นั่นแหละสะท้อนว่า
คุณไม่ได้แค่อ่านข่าวธรรมดา
แต่เป็นการ ‘รู้ข่าวมหาทาน’
เกิดบุญเกิดกุศลขึ้นในจิตเต็มๆดวงแล้ว
ขอแสดงความยินดีด้วย

มันเป็นเรื่องโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่เสียอีก

คนถูกลอตเตอรี่พร้อมกันทั่วประเทศ
คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก?

ปรากฏการณ์ที่ตูนทำให้เกิดขึ้น
ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆก็ทำให้เกิดขึ้นได้
อย่างผมเองคิดว่า ถ้าถูกบังคับให้วิ่ง
แค่ออกจากบ้านไปหน้าปากซอย
ก็น่าจะล้มกลิ้งลงนอนแผ่ กางแขนกางขา
แลบลิ้นปลิ้นตาตายอยู่กลางทางนั่นแหละ

ตูนเป็นคนมีคาริสม่าอยู่ก่อน
แบบที่เดี๋ยวนี้เรียกกันติดปากว่าออร่า
เป็นรัศมีการสำแดงกาย
แบบที่ดึงดูดคนเห็น
ให้นึกอยากเอาตาม
เป็นคาแรกเตอร์สำคัญของนักร้องและดารา
อันได้มาจากการเคยเป็นศูนย์รวม
ดึงใจคนให้มาทางบุญร่วมกัน
ใครอยากรู้ว่ากรรมเก่าของตูนเป็นอย่างไร
ก็ให้ดูกรรมใหม่ที่เขากำลังทำนี่แหละ

ตัวเงิน ๗๐๐ ล้านนั้น
ตูนทำได้แน่ๆครับ

แต่บอกตรงๆ
ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรดีขึ้นมา
อย่าว่าแต่ ๗๐๐ ล้าน
ต่อให้ ๗,๐๐๐ ล้าน
ก็แก้ปัญหาความขาดแคลน
อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีอยู่ไม่ได้

ทว่าสิ่งที่ตูนทำ
มันแก้ปัญหาคนไทยขาดแคลนความสุขได้
ศูนย์รวมความชุ่มชื่นใจที่เกิดขึ้น
จะสร้างข่าวดีขึ้นเป็นมูลค่าหลายแสนล้าน
คนเราพอทำทานด้วยใจคิดอยากช่วยจริงๆ
จะรู้สึกว่าตัวเองรวยขึ้นทันที
แม้ว่าเงินลดลงก็ตาม
เท่าที่คุยกับหลายคน
ก็เห็นพูดตรงกันว่า
อยากทำอะไรดีๆอย่างนี้
หรืออย่างน้อยก็ร่วมด้วยช่วยกันบ้าง
นั่นแหละ ร่องรอยของความร่ำรวยอู้ฟู่ทางวิญญาณ

อะไรจะเกิดขึ้น
ถ้ามีตูนอยู่ ๕ คน
ในประเทศนี้พร้อมกัน?

ใครอยากสร้างข่าวดีขึ้นมาแบบตูน
แนะนำว่าอย่าเลียนแบบตูนนะครับ
วิ่งมาราธอนนั้น
ถ้ามั่วก็มีสิทธิ์ตายหรือพิการได้ง่ายๆ
อยากให้มองว่าแค่แต่ละคน
นึกอยากใช้ความเก่งของตัวเอง
สร้างข่าวดีเล็กๆ เบาๆ ขึ้นมา
พร้อมกันทั่วประเทศ
มันก็เป็นข่าวใหญ่
ที่ไม่ต้องมีสื่อมวลชนนำเสนอ
แต่รู้ได้จากสัมผัสตรงของทุกคนอยู่แล้ว!" 

เพลงแสงสุดท้าย ตูน bodyslam

ที่มา:

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=826.0;wap2

https://www.facebook.com/profile.php?id=100000599061275&fref=ts

https://www.facebook.com/dungtrin/?fref=ts

https://www.youtube.com/watch?v=3c7ZochMais

https://www.youtube.com/watch?v=mAiUB5-mXyo