5 เหตุผลที่คนเจนเอ็ม (Generation M) จำเป็นต้องนั่งสมาธิ




คนGeneration M คือคลื่นคนรุ่นใหม่ในรอบ 1,000 ปี โดย M มาจากอักษรตัวแรกของ Millennial หมายถึง 1,000 ปีเพื่อสื่อว่าในรอบสหัสวรรษจะมีคนแบบนี้เกิดมารุ่นหนึ่ง และยังมาจากคำว่า Me Me Me เป็นนัยแสดงถึงการหมกมุ่นกับตัวเอง ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของรุ่นนี้ด้วย



คนGen M คือ คนที่เกิดในช่วงปี 1982 ถึง ปี 2004 (พ.ศ. 2525 -2547) ปัจจุบันคือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13- 35 ปี เป็นลูกของ Baby Boomer และรุ่นน้อง Generation X  ซึ่งปัจจุบันอายุระหว่าง 53-71  ปี และ 36-52 ปี ตามลำดับ โดยจากการเกิดหลัง Gen X นี่เองทำให้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Generation Y



ปัจจุบันในสหรัฐมีคนรุ่นนี้มากกว่า 80 ล้านคน ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่สุดของประเทศ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในโลก โดยทั้งหมดเชื่อมโยงกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตและวัฒนธรรมตะวันตกทำให้ลักษณะนิสัยไม่แตกต่างกันมากนัก




เป็น Gen M แน่ถ้า เสพติดเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smartphone หมั่น Update ความเป็นไปในชีวิตประจำวันแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย และถ่ายรูปตัวเองเพื่อ Upload ขึ้น Social Network อยู่ตลอด กลัวตก Trend  เชื่อเพื่อนมาก และไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เห็นได้จากส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ อันเป็นที่มาของชื่อ Peter Pan Generation ด้วย



แต่ก็ไม่เลวร้ายไปเสียหมด โดยมีข้อดีคือ คิดบวกแบบสุดๆ ค้นพบตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย มีข้อมูลรองรับจากคนรุ่นก่อนและ Website ปรับตัวเก่ง ยอมรับความแตกต่างได้ดี มองอะไรล่วงหน้าเสมอและเป็นนักปฏิบัติมากกว่านักคิด



 เหตุผลที่ทำให้ Gen M มีลักษณะเช่นนี้ส่วนหนึ่งมาจากผู้ใหญ่ในยุค 70 อยากพัฒนาเด็กให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง แต่กลับได้ความหลงตัวเองมาเป็นของแถม โดยมีการเปรียบเทียบว่าลักษณะของคนรุ่นนี้ ดีต่อการหางานและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ แต่ก็ส่งผลให้เปลี่ยนงานบ่อยและมีความสัมพันธ์ไม่ยืดยาว



อีกส่วนหนึ่งมาจากรายการประเภท Reality ที่กระตุ้นความอยากเด่นอยากดัง เทคโนโลยีในยุคนี้และการที่ผู้ปกครองเลี้ยงลูกแบบเพื่อน

ด้วยความที่หมกมุ่นกับตัวเอง ทำให้ของคู่กายของ Gen M คือ Smartphone และบรรดา Website เครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้ง Facebook และ Twitter ส่วนคนที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคือเพื่อนวัยเดียวกัน โดยพวกเขาเชื่อข้อมูลที่ได้จากเพื่อนมากกว่าผู้ใหญ่หรือโฆษณาเสียอีก



ครั้งหนึ่งคนในสังคมจำนวนมากเชื่อกันว่า การทำสมาธิเหมาะสำหรับคนเฉพาะกลุ่มเช่น กลุ่มคนที่สนใจเรื่องจิตวิญญาณ หรือกลุ่มคนที่มีอายุมากสักหน่อย

แต่ไม่ใช่ซะแล้ว!!!



 เพราะปัจจุบันนี้การทำสมาธิ เป็นเรื่องที่เป็น“กระแสหลัก” คือเป็นสิ่งที่อยู่ในความคิด และ เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ในสังคมในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่เห็น หรือได้ยินกันบ่อย จนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ในความเป็นจริงหลายคนถือว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์แก่เกือบทุกคนที่พยายามอย่างจริงจัง



จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า กลุ่มคนGen Mจำนวนมากขึ้นๆเลือกที่จะฝึกสมาธิกันอย่างมากมาย เพื่อหาความสงบจิตสงบใจในชีวิตที่เร่งรีบและมีแรงกดดัน



และการทำสมาธิก็มีประโยชน์มากมายสำหรับคนGen M โดยมี 5 ข้อโดดเด่นดังนี้

   1) ยุคแห่งความพึงพอใจในทันที ต้องได้ทันที เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นิสัยชอบวิตกกังวลระบาดในกลุ่มคนGen Mในปัจจุบัน การนั่งสมาธิประมาณ 10 นาทีต่อวันทำให้จิตใจสงบลงและทำให้ความวิตกกังวลลดลง



  2)  โลกออนไลน์ทำให้คนกลุ่มนี้ติดอยู่กับพลังงานเทียมๆและอารมณ์ปลอมๆได้ง่าย  ในระหว่างการทำสมาธิ คนGen M จะได้ออกจากโลกไซเบอร์เพื่อค้นพบความสงบภายใน



3) งานแบบมัลติทาสกิ้งหรือการทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พลังในการจดจ่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งลดลง การทำสมาธิช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อกับงานที่มีอยู่ โดยละเลยเรื่องไม่สำคัญได้ ดังนั้นจึงทำให้งานเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ



   4) แรงกดดันจากเพื่อน   ทั้งจากชีวิตส่วนตัวและจากอาชีพการงาน สามารถทำให้เกิดปัญหาเรื่องการนอนหลับได้ ถ้าคนGen Mได้ทำสมาธิ ในระหว่างการทำสมาธิจิตใจจะเข้าสู่สถานะการผ่อนคลายแบบลึกซึ่งเรียกว่าสถานะอัลฟา คนGen Mที่ติดกินยานอนหลับ สามารถเอาชนะอาการนอนไม่หลับได้หากพวกเขานั่งสมาธิสักสองสามนาทีก่อนนอน



5) ลองท่องมันตรา ฉัน....... (เติมข้อมูลในช่องว่างที่คุณอยากให้ตนเองเป็น)เป็นเวลา 5 นาทีทุกวันและดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น



ทราบเหตุผลดังนี้แล้ว หากมีคน Gen M อยู่รอบตัว ก็ชวนนั่งสมาธินะคะ แล้วชีวิตจะดี๊ดี





ที่มา: 
http://marketeer.co.th/archives/11622

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัมพชาดก: มนต์เสื่อมเพราะลบหลู่ครูอาจารย์

คนที่ชอบด่าว่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น กรรมจะมาเร็วมาก เป็นกรรมทางวาจา มีผลร้ายแรงมาก

ใจสบายไปทั่วโลก กับบทแผ่เมตตาภาษาอังกฤษ